เทคโนโลยีปัจจุบันมีความหมายกว้างกว่ารากศัพท์เดิม
คือ หมายถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรกล สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ทาง
อุตสาหกรรม ถ้าในแง่ของความรู้ เทคโนโลยีจะหมายถึง ความรู้หรือศาสตร์ที่เกี่ยวกับเทคนิคการผลิตในอุตสาหกรรม
และกิจกรรมอื่น ๆ ที่จะเอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ หรืออาจสรุปว่า
เทคโนโลยี คือ ความรู้ที่มนุษย์ใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์แก่มนุษย์เอง ทั้งในแง่ความเป็นอยู่และการควบคุมสิ่งแวดล้อม
(ผดุงยศ
ดวงมาลา 2523 : 16)
สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรืออาจกล่าวได้ว่า สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น สารสนเทศที่เป็น ความรู้ที่เกิดจากวิทยุ โทรศัพท์มือถือ ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ รอบตัวเราซึ่งอาจมาจาก วิทยุ โทรทัศน์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ดาวเทียม โทรศัพท์ เครื่องจักร ที่เกี่ยวกับสารสนเทศได้ เครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ เช่น การฝาก ถอนเงินผ่านเครื่อง ATM การจองตั๋วเครื่องบิน การลงทะเบียน ฯลฯ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจหรือตอบปัญหาต่าง ๆ ได้ สารสนเทศประกอบด้วยข้อมูลเอกสาร เสียง หรือรูปภาพต่าง ๆแต่จัดเนื้อเรื่องให้อยู่ในรูปที่มีความหมายสารสนเทศไม่ใช่จำกัดเฉพาะเพียงตัวเลขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรืออาจกล่าวได้ว่า สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น สารสนเทศที่เป็น ความรู้ที่เกิดจากวิทยุ โทรศัพท์มือถือ ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ รอบตัวเราซึ่งอาจมาจาก วิทยุ โทรทัศน์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ดาวเทียม โทรศัพท์ เครื่องจักร ที่เกี่ยวกับสารสนเทศได้ เครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ เช่น การฝาก ถอนเงินผ่านเครื่อง ATM การจองตั๋วเครื่องบิน การลงทะเบียน ฯลฯ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจหรือตอบปัญหาต่าง ๆ ได้ สารสนเทศประกอบด้วยข้อมูลเอกสาร เสียง หรือรูปภาพต่าง ๆแต่จัดเนื้อเรื่องให้อยู่ในรูปที่มีความหมายสารสนเทศไม่ใช่จำกัดเฉพาะเพียงตัวเลขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ยุคแรก เรียกว่า
ยุคการประมวลผลข้อมูล(Data Processing Era) เพื่อใช้ในการคำนวณและการประมวลผลข้อมูล
ยุคที่
2
มีการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการตัดสินใจดำเนินการควบคุม ติดตามผล
และวิเคราะห์ผลงานของผู้บริหารระดับต่างๆ เรียกว่า ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information System :MIS)
ยุคที่
3
การใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดการทรัพยากรสารสนเทศ (Information Resource Management) เพื่อเรียกใช้สารสนเทศที่ช่วยในการตัดสินใจนำหน่วยงานไปสู่ความสำเร็จในยุคปัจจุบัน
ความเจริญของเทคโนโลยีสูงมาก
มีการขยายขอบเขตของการประมวลผลข้อมูลไปสู่การสร้างและการผลิตสารสนเทศทำให้สามารถสร้างทางเลือกและรูปแบบใหม่ของสินค้าและบริการ
ซึ่งเรียกว่า ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ(Information Technology :IT) หรือยุคไอที โดยการใช้ระบบคอมพิวเตอร์และระบบการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นเครื่องมือช่วยในการจัดทำระบบสารสนเทศ
และเน้นความคิดเรื่องการให้บริการสารสนเทศแก่ผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นวัตถุประสงค์สำคัญ
วิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ยุคที่ 1 การประมวลผลข้อมูล (Data Processing Age) มีวัตถุประสงค์เพื่อการคำนวณและการประมวลผลข้อมูลของรายการประจำ (Transaction Processing) เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร
ยุคที่ 2 ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ (management Information System : MIS) มีการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการตัดสินใจ ควบคุม ดำเนินการ ติดตามผลและวิเคราะห์ผลงานของผู้บริหารระดับต่าง ๆ
ยุคที่ 3 การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ (Information Resource Management) ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเรียกใช้สารสนเทศที่จะช่วยในการตัดสินใจนำหน่วยงานไปสู่ความสำเร็จ
ยุคที่ 4 ยุคปัจจุบันหรือยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) ใช้ระบบคอมพิวเตอร์และระบบการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นเครื่องมือช่วยในการจัดทำระบบสารสนเทศ และเน้นความคิดของการให้บริการสารสนเทศแก่ผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นวัตถุประสงค์สำคัญ
ยุคที่ 1 การประมวลผลข้อมูล (Data Processing Age) มีวัตถุประสงค์เพื่อการคำนวณและการประมวลผลข้อมูลของรายการประจำ (Transaction Processing) เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร
ยุคที่ 2 ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ (management Information System : MIS) มีการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการตัดสินใจ ควบคุม ดำเนินการ ติดตามผลและวิเคราะห์ผลงานของผู้บริหารระดับต่าง ๆ
ยุคที่ 3 การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ (Information Resource Management) ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเรียกใช้สารสนเทศที่จะช่วยในการตัดสินใจนำหน่วยงานไปสู่ความสำเร็จ
ยุคที่ 4 ยุคปัจจุบันหรือยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) ใช้ระบบคอมพิวเตอร์และระบบการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นเครื่องมือช่วยในการจัดทำระบบสารสนเทศ และเน้นความคิดของการให้บริการสารสนเทศแก่ผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นวัตถุประสงค์สำคัญ
ข้อมูล หมายถืง
ข้อเท็จจริงที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับบุคคล สิ่งของ หรือ
เหตุการณ์ที่สนใจศึกษา ข้อมูลอาจเป็นตัวเลข (numeric) หรืออาจเป็นตัวอักษรหรือข้อความ (alphabetic) และข้อความที่เป็นตัวเลขผสมข้อความ
(alphanumeric)นอกจาก นี้ข้อมูลอาจเป็นภาพ (image) และ(sound) ก็ได้ การที่จะได้ระบบสารสนเทศที่ดีนั้นเกิดจากการเตรียมข้อมูลที่ดี
การจัดเก็บข้อมูลจะเก็บอยู่ในรูปของแฟ้มข้อมูล
ส่วนประกอบของแฟ้มข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูลในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เก็บในรูปของแฟ้มข้อมูล
จะมีการกำหนดโครงสร้างข้อมูลที่จัดเก็บในแฟ้มข้อมูลซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนี้
1. ตัวอักขระ (Character) ตัวอักขระหมายถึงสัญลักษณ์ต่าง
ๆ ที่ใช้ในภาษามนุษย์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
- ตัวเลข (Numeric) คือ เลขฐาน 10 ซึ่งประกอบด้วยตัวเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9
- ตัวอักษร (Alphabetic) คือ ตัวอักษร A ถึง Z
- สัญลักษณ์พิเศษ (Special symbol) เช่น เครื่องหมายคณิตศาสตร์ และสัญลักษณ์ต่างๆเช่น +, -, *, /, ?, #, & เป็นต้น
2. ฟิลด์ (Field) ฟิลด์ คือ
อักขระที่มารวมกันแล้วก่อให้เกิดความหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น
ชื่อ – สกุล อายุ เงินเดือน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น
ชื่อ – สกุล อายุ เงินเดือน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น
3. เรคคอร์ด (Record) เรคคอร์ด คือ ฟิลด์ที่เกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กันมารวมกัน
เช่น เรคคอร์ดนักศึกษาจะประกอบ ด้วยรายละเอียดของข้อมูลนักศึกษาฉะนั้นข้อมูลนักศึกษา 1 คน จะเป็น 1 เรคคอร์ด
4. แฟ้มข้อมูล (File)แฟ้มข้อมูล คือ เรคคอร์ดหลาย ๆ
เรคคอร์ดที่เกี่ยวข้องกันมารวมกัน ปัจจุบันแฟ้มข้อมูลมี หลายประเภท
แฟ้มข้อมูลที่จะนำมาใช้ประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์อาจมีแฟ้มข้อมูลเดียวหรือหลายแฟ้มข้อมูล
แฟ้มข้อมูลแบ่งออกเป็นหลายประเภท ดังนี้
4.1
แบ่งประเภทตามลักษณะของข้อมูล ได้แก่
- แฟ้มข้อมูลโปรแกรม (Program file) เป็นแฟ้มข้อ มูลที่เก็บโปรแกรมคำสั่งที่เขียนขึ้นด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
- แฟ้มข้อมูลข้อความ (Text file) เป็นแฟ้มข้อมูลที่เก็บข้อมูลเป็นข้อความเช่น แฟ้มเอกสารต่าง ๆ ที่มีสกุล .txt, .csv เป็นต้น
- แฟ้มข้อมูลเสียง(Sound file) เป็นแฟ้มข้อมูลเสียงที่มีสกุล .mid (midi) หรือสกุล .wav (wave) เป็นต้น
- แฟ้มข้อมูลวีดิโอ(Video file)เป็นแฟ้มข้อมูลที่มีสกุล .ave, .mov, .mpg
- แฟ้มข้อมูลภาพกราฟิก(Graphic file) เป็นแฟ้มข้อมูลที่เป็นรูปภาพที่มีสกุล .bmp, .jpg, .gif, tif, .png เป็นต้น
4.2 แบ่งตามลักษณะการใช้งานได้แก่
- แฟ้มข้อมูลหลัก (Master file) หรือแฟ้มข้อมูลถาวรคือ แฟ้มข้อมูลที่เก็บข้อมูลสำคัญซึ่งต้องการเก็บไว้อย่างถาวร การปรับปรุงจะใช้ข้อมูลจากแฟ้มรายการ ในงานหนึ่ง ๆอาจมีแฟ้มข้อมูลหลักมากกว่า 1 แฟ้มก็ได้ ตัวอย่างแฟ้มข้อมูลหลัก เช่น แฟ้มข้อมูลลูกค้า แฟ้มข้อมูลรายการสินค้า เป็นต้น
- แฟ้มรายการ (Transaction file) หรือแฟ้มข้อมูลชั่วคราว คือ แฟ้มข้อมูลที่รวบรวมการเปลี่ยนแปลงบางอย่างของแฟ้มข้อมูลหลักเก็บเป็นรายการย่อย ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะนำไปทำการปรับปรุงกับแฟ้มข้อมูลหลัก เช่น แฟ้มข้อมูลการชำระหนี้ของลูกค้า รายการขายสินค้าประจำวัน รายการเงินฝาก – ถอน การสำรองเที่ยวบิน เป็นต้น ในการปรับปรุงแก้ไขแฟ้มข้อมูลหลัก โดยทั่วไปจะใช้แฟ้มข้อมูล 2 แฟ้ม โดยแฟ้มแรกใช้เก็บข้อมูลหลักที่กำลังทำการปรับปรุงแก้ไข แฟ้มที่สองจะเก็บข้อมูลเฉพาะรายการเปลี่ยนแปลง
- แฟ้มข้อมูลสำรอง (Backup file) หมายถึง แฟ้มข้อมูลที่ได้จากการทำสำเนาแฟ้มข้อมูลสำคัญเอาไว้ใช้ในกรณีที่แฟ้มข้อมูลสำคัญมีปัญหาอาจใช้แฟ้มข้อมูลสำรองแทน(ข้อมูล : L2EIS 5/05/2556)
ฐานความรู้ (Knowlelge-based) เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในระบบผู้เชี่ยวชาญ
(expert system) หมายถึง ข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ใช้ในการแก้ปัญหา
เพื่อใช้เป็นฐานในการตัดสินใจของเครื่องคอมพิวเตอร์ ในระบบผู้เชี่ยวชาญนี้ ฐานข้อมูลส่วนมากจะประกอบไปด้วยคำสั่งประเภท
ถ้า...... (IF) มากทีเดียว ดู expert system และ artificial
intelligence ประกอบ โดยทั่วไป knowledge base หรือ ฐานความรู้
คือการรวบศูนย์การจัดเก็บสารสนเทศ เช่น ห้องสมุดสาธารณะ
ฐานข้อมูลของสารสนเทศที่สัมพันธ์กับหัวข้อเฉพาะ
ในความสัมพันธ์กับเทคโนโลยีสารสนเทศ
ฐานความรู้เป็นแหล่งที่เครื่องสามารถอ่านได้สำหรับการกระจายสารสนเทศ
โดยทั่วไปการออนไลน์หรือความสามารถทำให้ออนไลน์
สวนประกอบบูรณาการของระบบการจัดการความรู้ (knowledge management) ฐานความรู้ได้รับการใช้รวมสารสนเทศ จัดโครงสร้าง
และดึงสำหรับองค์กร หรือสาธารณะทั่วไป ฐานความรู้ที่ได้รับการได้ดีสามารถประหยัดเงินของวิสาหกิจโดยการลดเวลาของลูกจ้างในการค้นหาสารสนเทศ
เช่น กฎหมายภาษี นโยบายบริษัท และขั้นตอนทำงาน
เครื่องมือจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (customer relationship management หรือ CRM) ฐานความรู้สามารถให้ลูกค้าเข้าถึงสารสนเทศได้ง่าย
ในกรณีอื่นต้องติต่อกับเจ้าหน้าที่ขององค์กร ตามกฎ ความสามารถนี้ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ง่ายขึ้นสำหรับทั้งลูกค้าและองค์กร
โปรแกรมประยุกต์จำนวนหนึ่งให้ผู้ใช้สร้างบานข้อความรู้ของตัวเอง ทั้งการแยกต่างหาก
(เรียกว่า knowledge management
software) หรือเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกมประยุกต์อื่น
เช่น แพ็คเกจ CRM โดยทั่วไป ฐานความรู้ไม่ใช่การรวบรวมสารสนเทศแบบสถิตย์
แต่ทรัพยากรพลวัตรที่อาจจะมีความสามารถในการเรียนรู้ได้เอง ตัวอย่าง เป็นส่วนของ artificial intelligence (AI)
expert system ตามรายงานของ World Wide Web Consortium
(W3C) ในอนาคตอินเตอร์เน็ตจะกลายเป็นฐานความรู้ระดับโกลบัลขนาดใหญ่และซับซ้อนที่เรียกว่า
Semantic Web (www.com5dow.com 5 / 05 / 2556)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น